วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

If – Clause

If – Clause
                If clause หรือ Condition Clause หมายถึง ประโยคที่แสดงหรือกำหนดเงื่อนไขขึ้นในเวลาที่ต่างกัน แต่เวลาที่พูดนั้นเกิดขึ้นในปัจจุบันรูปกริยาที่ต่างกันใน If – Clause เป็นเพียงตัวบ่งชี้ให้ทราบว่าเป็นเงื่อนไขแบบใดเท่านั้น
การใช้ เป็นประโยคเงื่อนไขที่ใช้แสดงว่า ถ้ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นผลของเงื่อนไขนั้นก็จะตามมาโดยไม่ต้องสงสัย
ประโยคเงื่อนไขชนิดที่ 1 นี้ สามารถแบ่งได้อีกเป็น 3 รูปแบบ คือ
                1.1 เงื่อนไขที่เป็นจริงเสมอ
                1.2 เงื่อนไขที่ใช้ในประโยคคำสั่งหรือขอร้อง
                1.3 เงื่อนไขที่ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อเหตุการณ์ที่เป็นเงื่อนไขเกิดขึ้น ผลของเงื่อนไขนั้นก็จะเกิดตามมา
1.1 เงื่อนไขที่เป็นจริงเสมอ
If + subject + present simple , subject + present simple
หรือเราจะวาง if ไว้ตรงกลางประโยคก็ได้
                Subject + present simple + if + subject + present simple
* If clause ขึ้นต้น เครื่องหมาย comma ( , ) จะต้องอยู่หลัง if clause ทันที
* present simple = verb1( s , es )
เช่น - If we heat water , it boils.  = ถ้าเราให้ความร้อนแก่น้ำ , น้ำก็จะเดือด 
- Water changes into stream if it boils. = น้ำกลายเป็นไอถ้าน้ำเดือด นี่ก็จริงอีกค่ะ
- Water boils if it reaches 100° C.  = น้ำเดือดถ้ามีอุณหภูมิ 100 องศา
- The sun rises if it is a day. = พระอาทิตย์ขึ้นถ้าเป็นเวลากลางวัน
- If we study hard, we pass the exam. = ถ้าเรายันเรียนเราก็สอบผ่าน
1.2 เงื่อนไขที่ใช้ในประโยคคำสั่งหรือขอร้อง
If + subject +present simple , imperative / request (infinitive / don’t + infinitive)  เช่น
- If you wake up before me , give me a call. =ถ้าคุณตื่นนอนก่อนฉัน , โทรศัพท์ไปหาฉันด้วย
- Don’t disturb me if I am in my room. = อย่ารบกวนฉันถ้าฉันอยู่ในห้อง
- Don’t play game late if you have class tomorrow. = อย่าเล่นเกมดึกถ้าคุณเรียนในวันพรุ่งนี้
- Send me your email if you want me to contact you. = ส่ง e-mail คุณให้ฉันถ้าต้องการให้ฉันติดต่อคุณ
- Give Jade some money if you meet him= ให้เงินกับเจดบ้างถ้าคุณพบเขา
ข้อสังเกต ; imperative / request หรือ ประโยคคำสั่ง คำขอร้อง จะขึ้นต้นด้วย infinitive without to ถ้าเป็นบอกเล่า หรือใช้ don’t + infinitive / Do not + infinitive
ถ้าเป็นปฏิเสธ
1.3 ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยเฉพาะเมื่อเหตุการณ์ที่เป็นเงื่อนไขเกิดขึ้นผลของเงื่อนไขนั้นก็จะเกิดตามมา
รูปประโยคบอกเล่า
If + subject+ present simple , subject + future simple
(If + subject+verb1 (s,es) , subject + (will , shall , may , can) + infinitive)  เช่น
- If Pang studies hard , she will pass the test easity.  = ถ้าแป้งขยัน , เธอก็จะสอบผ่านได้อย่างง่ายดาย
- We will stay at home if there is a good movie on TV. = เราจะอยู่บ้านถ้ามีหนังดี ๆ ทางโทรทัศน์
- Jane will change wallpaper in her bedroom if she has free time. = เจนจะเปลี่ยนวอลเปเปอร์ในห้องนอนถ้าเธอมีเวลา
รูปประโยคปฏิเสธ
If + subject +(do,does) not + infinitive, subject + will not+ infinitive  เช่น
- I won’t go anywhere if there is a heavy storm. = ฉันจะไม่ไปไหนถ้ามีพายุมา
- If it does not rain , Saya will paint her room. = ถ้าฝนไม่ตก , ซาย่าจะทาสีห้อง
- Jim won’t pass final exam if he does not attend class. = จิมจะไม่ผ่านการสอบปลายภาคถ้าเขาไม่เข้าเรียน
รูปประโยคคำถาม
If + subject +verb1 (s,es) ,(question word) + will + subject + infinitive +…....?
Don’t forget : เราใช้ shall , can , may แทน will ได้เสมอ
: นิยมทำคำถามในส่วนของ main clause เท่านั้น  เช่น
- If you win 1st prize lottery , what will you do with the enormous money ?
ถ้าคุณถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 , คุณจะทำอะไรกับเงินก้อนใหญ่
- Where will Lulu stay if she arrives London ?
ลูลู่จะพักที่ไหนถ้าเธอมาถึงลอนดอน
- How can you manage the problems if you are alone in another country ?
คุณจะจัดการกับปัญหาต่าง ๆ อย่างไร ถ้าคุณอยู่คนเดียวในต่างประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น