วิธีเขียนภาษาอังกฤษให้ดีขึ้น
จากการสำรวจปัญหาที่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษพบว่าทักษะการเขียนเป็นทักษะที่เด็กไม่มีใจมากที่สุด
คือ การเขียน
เพราะการฟังสามารถอาศัยสีหน้าท่าทางคนพูดเพื่อประกอบความเข้าใจได้ การพูดยังพอใช้ภาษามือช่วยได้ ส่วนการอ่านก็ใช้เวลานานแค่ไหนก็ทำความเข้าใจไปที่ละนิด แต่การเขียนกลับเป็นเรื่องที่ทางการที่สุด ที่จะต้องกังวลทั้งเรื่องไวยากรณ์ คำศัพท์
และหลักการเขียนให้ดีขึ้นมีดังนี้
คิดเป็นภาษาอังกฤษ ห้ามคิดเป็นภาษาไทยแล้วแปลกลับเป็นภาษาอังกฤษ
เพราะรายละเอียดหลายๆอย่างอาจจะตกหลนระหว่างการแปลได้
วิธีนี้จะต้องอาศัยความเคยถึงจะทำให้คิดเป็นภาษาอังกฤษได้
แต่ทุกคนสามารถทำด้วยการฝึกฝนทักษะภาอังกฤษอย่างสม่ำเสมอจะเป็นการฟังหรือการอ่านก็ได้ เพื่อสร้างความคุ้นเคยในการใช้ภาษา
การเขียนร่างหลายๆครั้ง
หรือเขียนแล้วทบทวนแก้ไขหลายรอบ
อย่าเขียนครั้งเดียวส่งร่างเสร็จก็ตรวจทานใหม่
ถ้าเป็นการบ้านที่อีกนานกว่าจะส่งให้รีบทำแต่เนิ่นๆ ตรวจรอบแรกแล้วทิ้งไว้สัก
3 วันแล้วมาอ่านอีกที
แก้ไขแล้วก็เว้นไว้อีก 5 วัน มาแก้อีกรอบ
ควรเว้นจังหวะระหว่างการแก้ไขในแต่ละครั้งด้วย ครั้งหลังๆมาอ่านจะรู้สึกว่า
“ วันนั้นฉันเขียนอะไรลงไปเนี๊ย ”
จับอะไรรวมกันได้ก็รวมเข้าด้วยกัน ถ้ารู้สึกว่าทำไมงานเขียนของตัวเองดูฟื้นๆมาก
มีแต่ I am.
He is. There are. เต็มไปหมด เช่น He
has beautiful eyes.
There are green.
He is looking
right at me. ซึ้งสามารถฝึกการแปลงรูปประโยคได้จากการอ่านและฟังเยอะ ดุหนังฟังเพลงแบบจัดเต็ม
ลองอ่านออกเสียงเผื่อสะดุด
การอ่านออกเสียงทำให้ได้ใช้ประสาทสัมผัสเพิ่มมากขึ้นซึ่งประสาทสัมผัสที่เพิ่มขึ้นก็เหมือนกับตัวช่วยตรวจสอบมากข้น บางทีพูดไปพูดมาอาจจะรู้สึกแปลกๆขึ้นมากับบางประโยค
ขยันพิมพ์ภาษาอังกฤษในสเตตัส
ใครจะว่าก็ช่างแต่เราทำเพื่อพัฒนาทักษะตัวเองเวลาอยากเม้าธ์หรือวิจารณ์หนังที่เพิ่งไปดูมา
ก็ลองเปลี่ยนมาอัพสเตตัสเป็นภาษาอังกฤษแทนพยายามแสดงเหตุผลไปเยอะๆ
พระเอกหล่อไง ตัวโกงดีเลวยังไง ดนตรีประกอบเพราะไหม เขียนไปตามใจชอบเลย เพื่อนในเฟซบุ๊คที่เก่งภาษาอังกฤษผ่านมาเห็นก็จะช่วยแนะนำแก้ไข และแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาอังกฤษบ่อยๆ
จะทำให้ไม่รู้สึกว่ามันน่ากลัวเวลาต้องเขียนงาน
พิมพ์ Google เมื่อประโยคที่ไม่แน่ใจว่าเขียนถูกไหม วางคำขยายถูกตำแหน่งหรือยังให้ลองพิมพ์ประโยคนั้นลง Google ผลลัพธ์ที่ขึ้นมาช่วยยืนยันได้ว่ามีคนเขียนแบบนี้หรือไม่ แต่ต้องอ่านทีละผลลัพธ์ดีๆ ว่าใช้ในสถานการณ์เดียวกับเราหรือเปล่า
สรุปทักษะการเขียนจะต้องคิดเป็นภาษาอังกฤษ
เขียนร่างหลายๆครั้งเพื่อทบทวน ฝึกแปลงประโยค ขยันพิมพ์ภาษาอังกฤษในสเตตัส
และฝึกพิมพ์ใน Google
เพื่อแก้ไขและพัฒนาวิธีการเขียน แต่จะต้องฝึกฝนทำอยู่บ่อยๆ
อย่างต่อเนื่องเพื่อการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้นไป